ป้ายสวนสัตว์ในประเทศญี่ปุ่น โพสต์ป้ายวอนนักท่องเที่ยว อย่าหอนใส่หมาป่า แต่เผยสาเหตุไปถึงกับอึ้ง เพราะ หมาป่าไม่หอนตอบใส่ชนชั้นต่ำกว่า เพจเฟซบุ๊ก ญี่ปุ่นปุ่นปุ่น ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก โดยแชร์เรื่องราวมาจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งในญี่ปุ่นที่ไปเที่ยวสวนสัตว์เท็นโนจิในจังหวัดโอซาก้า พร้อมกับเจอป้ายเกี่ยวกับหมาป่าที่ขอให้นักท่องเที่ยวงดหอนใส่หมาป่า พอรู้คำตอบว่าเพราะอะไรถึงกับจุก
ทางเพจได้เขียนคำแปลบนป้ายว่า
“มีหลายคนที่มาเที่ยวสวนสัตว์พยายามจะหอนใส่หมาป่า จริงๆแล้วมันรู้ว่าไม่ใช่พวกมัน หมาป่าสามารถจำเสียงสมาชิกในฝูงได้ และบางครั้งมันก็ไม่หอนตอบพวกระดับต่ำกว่า” งานนี้กลายเป็นไวรัลทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยชาวไทยที่ได้อ่านความเห็นก็ต่างขำกับความแรงปนนุ่มนวลของทางสวนสัตว์ ขณะที่ชาวเน็ตอีกคนก็เล่าว่าตนเองตอนเด็กๆเคยหอนแล้วหมาในบ้านหอนตาม แปลว่าตนได้รับการยอมรับจากฝูงแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตามด้วยความสงสัย ทางทีมข่าว TheThaiger จึงทำการค้นดูว่าหมาป่าสามารถจำเสียงหมาป่าในฝูงได้จริงหรือไม่ ซึ่งจากการค้นคว้างานวิจัยของนักวิทยาศาสตรก์พบว่าเป็นเรื่องจริง โดยหมาป่าแต่ละตัวจะมีเสียงไม่เหมือนกัน คล้ายกับเสียงของมนุษย์ที่ต่างออกไป
ในงานวิจัยฉบับดังกล่าวได้นำเปิดเสียงหอนที่หมาป่าคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย และพบว่าหมาป่าหันไปทางเครื่องเสียงเร็วกว่า มองนานกว่า และแสดงความสนใจเมื่อได้ยินเสียงหมาป่าในฝูงมากกว่า เห็นแล้วรู้สึกๆคุ้น หลัง ผู้นำบราซิล ยืนชี้ป้ายน้ำมันอังกฤษ บอก น้ำมันบราซิลถูกสุดในโลก โดนจวกค่าแรงขั้นต่ำบราซิลถูกกว่าอังกฤษหลายเท่า
เมื่อวันที่ 20 กันยายน สำนักข่าว สกาย รายงานว่า นาย ณาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลที่ขณะนี้อยู่ในประเทศอังกฤษเพื่อร่วมพิธีศพควีนเอลิซาเบธ ได้ไลฟ์สดขณะตนยืนอยู่หน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ พร้อมชี้ป้ายน้ำมันที่เขียนว่า 1.619 ปอนด์ต่อลิตร หรือคิดเป็นราวๆ 68 บาท
ผู้นำบราซิลบอกว่าค่าน้ำมันแพงเป็นสองเท่าของค่าเฉลี่ยในหลายรัฐประเทศบราซิล และระบุว่าราคาน้ำมันในประเทศบราซิลนั้นถูกที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตามประชาชนชาวบราซิลได้ออกมารุมวิจารณ์ในสิ่งที่นาย โบลโซนารู เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ค่าแรงขั้นต่ำของบราซิลถือว่าต่ำกว่าประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก โดยค่าแรงขั้นต่อต่อเดือนบราซิลอยู่ที่ราวๆ 8,744 บาท ขณะที่อังกฤษอยู่ที่ราวๆ 7 หมื่นบาท
ทั้งนี้หลายฝ่ายมองว่าการไปยืนชี้ป้ายราคาน้ำมันของผู้นำบราซิลนั้นเป็นความพยายามดิ้นรนในการกู้คะแนนเสียงกลับคืนมา หลังจากที่โพลเลือกตั้งบราซิลที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมระบุว่านาย โบลโซนารู ตามหลัง ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา หรือ ลูลู่ อดีตผู้นำบราซิล
ทรัพย์สิน ‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ ร่วงหนักหลัง ‘เมต้า’ ไม่ปัง
ทรัพย์สิน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ลดลงไปกว่าร้อยละ 55 หรือ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังเมต้าไม่ปัง ถีบ ซัคเคอร์เบิร์ก ลงไปอันดับ 20 ในอันดับมหาเศรษฐีโลก เมื่อวันที่ 20 กันยายน เว็บไซต์ อินไซเดอร์ รายงานว่า มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ลดลงไปกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่แล้วไปกว่าร้อยละ 55 ทำให้ อันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลกของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตกลงไปอยู่อันดับที่ 20
อ้างอิงจากดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กระบุว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีทรัพย์สินในช่วงต้นปีที่ 1 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนจะตกลงมาเหลือ 5.5 หมื่นล้าน ลดลงไปมากกว่าครึ่งนึงนับจากช่วงต้นปี โดยทรัพย์สินของเขาในปัจจุบันถือว่าห่างจาก อิลอน มัสก์ และ เจฟฟ์ เบซอส เป็นอย่างมาก
สาเหตุที่ทรัพย์สิน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตกลงมาอย่างมหาศาลนั้น มีหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการประกาศว่า เมต้า บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม วอทแอป จะกลายเป็นบริษัทเมต้าเวิร์ส รวมถึงการรีแบรนด์ จนนำไปสู่การจำนวนผู้ใช้ที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการก่อตั้งเฟซบุ๊กขึ้น โดยนับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เสียผู้ใช้ไปกว่าล้านคน
รวมไปถึงกรณีอื้อฉาวที่ ฟรานเซส ฮาวเกน อดีตผู้จัดการฝ่ายดูแลผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ออกมาแฉว่าอินสตาแกรมมีส่วนทำให้เด็กวัยรุ่นผู้หญิงมีความคิดอยากฆ่าตัวตายและมีปัญหาด้านการกิน รายได้สุทธิเมต้าของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กในไตรมาสที่สองของปีนี้ตกลงไปกว่าร้อยละ 36 หรือมากกว่า 3 พันล้าน หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
ขณะนี้ข้อมูลของผู้ป่วยทั้ง 25 รายได้ถูกส่งไปยัง GISAID ซึ่งเป็นฐานข้อมูลระหว่างประเทศที่ติดตามเชื้อโควิด-19 เป็นที่เรียบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ นาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ออกมาประกาศในปี 2562 ว่าเขามีแผนจะย้ายเมืองหลวงไปยังพื้นที่อื่น เนื่องจากกรุงจาการ์ตา แผ่นดินทรุดตัวลงเสี่ยงทำให้เมืองจมน้ำ รวมถึงแก้ปัญหาความแออัดและปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างไรก็ตามแผนการก่อสร้างถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
คาดว่าการย้ายเมืองหลวงอย่างเป็นทางการอาจเกิดขึ้นในปี 2567 และคาดว่าสามารถรองรับประชาชนได้ 6-7 ล้านคน เบื้องต้นโครงการสร้างเมืองหลวงใหม่นี้จะใช้เงินในการก่อสร้างกว่า ล้านล้านบาท และการก่อสร้างอาจเริ่มขึ้นในปีนี้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป